(พระเยซูถูกตรึงกางเขนเรื่องจริงหรือโกหก)บทความโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชนถึง
แม้มุสลิมและชาวคริสเตียนจะมีความเชื่อในนบีอีซาหรือพระเยซูเหมือนกันแต่ใน
ความเชื่อในนบีคนเดียวกันนี้มุสลิมและชาวคริสเตียนก็ยังมีความเชื่อที่แตก
ต่างกันเกี่ยวกับตัวท่านตั้งแต่เรื่องการเกิดจนกระทั่งวาระสุดท้ายของท่านบน
โลกนี้ในเรื่องของการเกิด ชาว
คริสเตียนเชื่อว่าพระเยซูเกิดมาโดยมีพ่อแม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป
แต่ถือว่าท่านเป็นบุตรของพระเจ้าและบางกลุ่มก็เชื่อว่าวิญญาณของท่านเป็น
วิญญาณของพระเจ้าที่มาสถิตในร่างของมนุษย์และอธิษฐานต่อท่านส่วนมุสลิมเชื่อ
ว่านบีอีซามีกำเนิดอันมหัศจรรย์จากนางมัรยัมหญิงพรหมจรรย์โดยที่ไม่ได้แต่ง
งานกับผู้ใดทั้งนี้เพื่อเป็นสัญญาณแสดงถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺซึ่ง
พวกบนีอิสรออีลท้าทายมาโดยตลอดแต่หลักความเชื่อของอิสลามถือว่าถึงแม้ท่านจะ
มีกำเนิดอันมหัศจรรย์เช่นนั้นท่านก็เป็นเพียงบ่าวของอัลลอฮฺและมิได้เป็น
บุตรของพระเจ้าส่วนในเรื่องการถูกตรึงกางเขนนั้น ชาว
คริสเตียนทั่วไปถือว่าพระเยซูเสียชีวิตโดยการถูกตรึงบนไม้กางเขนและการเสีย
ชีวิตของท่านเป็นการไถ่บาปให้แก่มนุษย์ทั่วโลกที่มีบาปติดตัวมาตั้งแต่
กำเนิดในขณะที่มุสลิมเชื่อว่านบีอีซาไม่ได้ถูกตรึงและเสียชีวิตบนไม้กางเขน
หากแต่มีใครบางคนที่มีหน้าตาเหมือนท่านถูกนำตัวไปตรึงกางเขนแทน
หลังจากนั้นท่านได้ถูกพระผู้เป็นเจ้านำตัวกลับไปและจะกลับมาใหม่อีกครั้ง
หนึ่งก่อนวันสิ้นโลกหลักฐานที่มุสลิมนำมาใช้อ้างก็คือข้อความจากคัมภีร์กุรอานที่กล่าวไว้ดังนี้ :?และ
พวกเขา(บนีอิสรออีล)กล่าวว่า
?เราได้ฆ่ามะซีฮฺอีซาลูกของมัรยัมรอซูลของอัลลอฮฺแล้ว?
แต่ในความจริงพวกเขาไม่ได้ฆ่าและไม่ได้ตรึงเขาบนไม้กางเขน
แต่ว่าพวกเขาได้ถูกทำให้มองเห็นละม้ายคล้ายคลึงเช่นนั้น
บรรดาผู้ที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีข้อสงสัยในเรื่องนี้
แต่พวกเขาไม่มีความรู้อะไรนอกจากจะอาศัยการเดา
เพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าพวกเขาประสบผลสำเร็จในการฆ่าอีซา ไม่เลย
ความจริงก็คือ อัลลอฮฺได้ทรงเทิดเขาขึ้นไปยังพระองค์
เพราะอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงอำนาจยิ่ง ผู้ทรงปรีชาญาณเสมอ? (กุรอาน 4:157-158)ดัง
นั้น จากคำยืนยันของอัลลอฮฺในคัมภีร์กุรอาน
การตรึงกางเขนนบีอีซาหรือพระเยซูจึงไม่ได้เกิดขึ้นและท่านก็ไม่ได้เสียชีวิต
บนไม้กางเขน ในคัมภีร์ไบเบิลพันธสัญญาใหม่ฉบับลูกาก็ถูกบันทึกไว้ว่า :แล้ว
พระองค์
(พระเยซู)ดำเนินไปจากพวกเขาไกลประมาณขว้างหินตกและทรงคุกเข่าลงอธิษฐานว่า
?พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย
ขอให้ถ้วยนี้(หมายถึงความตาย)เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิดแต่อย่างไรก็ดี
อย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด?
ทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาปรากฏแก่พระองค์ช่วยชูกำลังพระองค์....? (ลูกา 22 : 41-43)นัก
วิชาการมุสลิมหลายคนอย่างเช่นอิบนุตัยมียะฮฺได้กล่าวว่านบีอีซาได้วิงวอนต่อ
พระเจ้าให้เลื่อนถ้วยแห่งความตายออกไปจากท่าน
ดังนั้นอัลลอฮฺในฐานะผู้ทรงรักและผู้ทรงปกป้องนบีของพระองค์จึงได้ตอบรับคำ
วิงวอนและความต้องการของท่านพระองค์
ได้ทรงช่วยท่านให้พ้นจากความเจ็บปวดและความตายบนไม้กางเขนโดยการส่งทูต
สวรรค์มาช่วยทำให้ท่านมีความเข้มแข็ง (กล่าวคือ
เพื่อช่วยเหลือท่านและให้หลักประกันว่าอัลลอฮฺจะช่วยชีวิตท่าน) หลังจากนั้น
บรรดาทูตสวรรค์ก็ได้นำตัวท่านไปจากบรรดาผู้ที่พยายามจะฆ่าท่าน
อย่างไรก็ตามฝูงชนที่แห่กันมาดูการตรึงกางเขนก็เกิดความสับสนและบางคนก็คิด
ว่าพวกทหารโรมันได้ฆ่าพระเยซูไปแล้ว
แต่ตามคัมภีร์กุรอานอัลลอฮฺได้ทรงบอกให้เราทราบว่านบีอีซาไม่ได้เสียชีวิต
หรือแม้แต่จะถูกตรึงบนไม้กางเขนแม้
แต่ในหมู่สาวกยุคแรกของพระเยซูก็มีหลายกลุ่มที่เชื่อว่าพระเยซูได้ถูกช่วย
ให้พ้นจากความตายบนไม้กางเขนเช่นกัน
คนเหล่านั้นไม่เชื่อด้วยว่าท่านถูกตรึงกางเขน อย่างไรก็ตาม
ความเชื่อเรื่องการถูกตรึงกางเขน(พร้อมกับความเชื่อเรื่องการไถ่บาป)ได้
ค่อยๆกลายเป็นหลักความเชื่อสำคัญของศาสนาคริสต์ไปในที่สุดและคริสตจักรก็ได้
ตำหนิความเชื่อที่ต่างไปจากนี้
แต่คัมภีร์กุรอานยังคงยืนยันว่าพระเยซูไม่ได้ถูกตรึงบนไม้กางเขนอีกทั้งยืน
ยันว่าท่านเป็นมนุษย์และเป็นศาสนทูตผู้ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเนื่อง
จากนบีอีซามิได้เสียชีวิตบนไม้กางเขนและท่านได้ถูกพระผู้เป็นเจ้านำตัว
ท่านกลับไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ดังหลักฐานจากคัมภีร์กุรอานดังกล่าวข้าง
ต้น ดังนั้น จึงไม่มีใครรู้เรื่องราวของท่านอีกเลยหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตามจากคำบอกเล่าของอบูฮุร็อยเราะฮฺ ท่านนบีมุฮัมมัดได้กล่าวว่า
?ขอสาบานด้วยผู้ที่กำชีวิตของข้าพระองค์ไว้ แน่นอน
ลูกของมัรยัมจะลงมาในหมู่พวกท่านในฐานะผู้ตัดสินที่ยุติธรรมและเขาจะหักไม้
กางเขนจะฆ่าหมูและจะยกเลิกญิซยะฮฺ(ภาษีที่รัฐอิสลามเรียกเก็บจากผู้ที่มิใช่
มุสลิมในรัฐอิสลาม)และความมั่งคั่งจะเกิดขึ้นจนไม่มีผู้ใดยอมรับมันจน
กระทั่งการก้มกราบเพียงครั้งเดียวจะดีกว่าโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น?
(บันทึกโดยบุคอรี)จาก
ฮะดีษดังกล่าวข้างต้นบอกให้เรารู้ว่าก่อนถึงวันสิ้นโลกนบีอีซาจะกลับมาอีก
ครั้งหนึ่งในฐานะผู้ตัดสินที่ยุติธรรมระหว่างสัจธรรมกับความเท็จ
การหักไม้กางเขน
การฆ่าหมูและอื่นๆนั้นหมายความว่าท่านจะมาแก้ไขความเชื่อผิดเกี่ยวกับท่าน
และคำสอนของท่านในบรรดาสาวกของท่าน
หลังจากนั้นผู้คนที่หลงผิดก็จะปฏิบัติตามท่านซึ่งจะทำให้สาวกของท่านและสาวก
ของท่านนบีมุฮัมมัดรวมกันเป็นประชาชาติเดียวกัน
นี่คือวัตถุประสงค์ในการกลับมาของนบีอีซา
บทความโดยอาจารย์บรรจง บินกาซัน ประธานโครงการอบรมผู้สนใจอิสลาม มูลนิธิสันติชน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น